- Advertisement -
กรมการพัฒนาชุมชน เปิดรับสมัครสอบเป็นอาสาพัฒนา ทั่วประเทศ 200 อัตรา 21 – 29 พฤษภาคม 2562
- Advertisement -

กรมการพัฒนาชุมชน เปิดรับสมัครสอบเป็นอาสาพัฒนา (อสพ.) ทั่วประเทศ 200 อัตรา สมัครด้วยตนเอง ตั้งแต่วันที่ 21 – 29 พฤษภาคม 2562
รับข่าวไลน์ งานราชการ 62 คลิ๊กที่นี่
หางานกรุงเทพและปริมณฑลคลิ๊กที่นี่
กรมการพัฒนาชุมชน รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นอาสาพัฒนา (อสพ.) รุ่นที่ 71 (ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563)
ตำแหน่งที่เปิดรับสมัครสอบ
อาสาพัฒนา (อสพ.) 200 อัตรา
อัตราค่าตอบแทน 15,000 บาท (ปฏิบัติงานครบ 1 ปีได้ค่าบำเหน็จเพิ่ม 5,000 บาท พร้อมวุฒิบัตร
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง
ผู้สมัครต้องได้รับวุฒิปริญญาตรีหรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบเท่าในระดับเดียวกันทุกสาขาวิชา โดยต้องเป็นผู้สําเร็จการศึกษาและได้รับการอนุมัติจากผู้มีอํานาจอนุมัติภายในวันปิดรับสมัครคือวันที่ 29 พฤษภาคม 2562
ให้ผู้ประสงค์จะสมัครเข้ารับการคัดเลือก สามารถติดต่อขอรับใบสมัครและยื่นใบสมัครด้วยตนเองได้ที่ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดทุกจังหวัด (ดูที่อยู่ของทุกจังหวัดคลิกที่นี่) ตั้งแต่วันที่ 21 – 29 พฤษภาคม 2562 ในวันและเวลาราชการ
วิธีการคัดเลือก
๑ สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ประกาศรายชื่อผู้สมัครสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ และ ระเบียบเกี่ยวกับการสอบ ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตําแหน่ง (สอบข้อเขียน) ในวันที่ 3 มิถุนายน 2562 ณ สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด หรือสถานที่ที่คณะกรรมการจังหวัดกําหนด
๒ กําหนดการสอบภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตําแหน่ง (สอบข้อเขียน) พร้อมกัน ทั่วประเทศ ในวันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน 2562
๓ สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ประกาศรายชื่อผู้ที่มีสิทธิ์สอบภาคความเหมาะสม กับตําแหน่ง (สอบสัมภาษณ์) วัน เวลา และสถานที่สอบ ในวันที่ 13 มิถุนายน 2562 ณ สํานักงาน พัฒนาชุมชนจังหวัด หรือสถานที่ที่คณะกรรมการจังหวัดกําหนด
เอกสารและหลักฐานที่ใช้ประกอบการสมัครคัดเลือก
(๑) ใบสมัครคัดเลือก ตามแบบที่กําหนด
(๒) รูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวก และไม่สวมแว่นตาดํา ขนาด ๑.๕ นิ้ว x ๑ นิ้ว ถ่ายครั้งเดียวกันไม่เกิน ๑ ปี (นับถึงวันปิดรับสมัครคัดเลือก) จํานวน ๓ รูป
(๓) สําเนาปริญญาบัตร จํานวน ๑ ฉบับ แสดงว่าเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษาตรงตาม ประกาศรับสมัคร โดยต้องสําเร็จการศึกษาและได้รับอนุมัติจากผู้มีอํานาจอนุมัติภายในวันปิดรับสมัครสอบ คือวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๒ จํานวน ๑ ฉบับ (ในกรณีที่สําเร็จการศึกษาแล้วแต่ยังไม่ได้รับปริญญาบัตร ให้นําหนังสือรับรองคุณวุฒิที่สถานศึกษาออกให้ โดยระบุสาขาวิชาที่สําเร็จการศึกษาและวันที่ได้รับอนุมัติ ให้สําเร็จการศึกษาซึ่งต้องอยู่ภายในกําหนดวันปิดรับสมัครมายื่นแทนได้)
(๒) สําเนาระเบียนแสดงผลการเรียน (Transcript of Records) จํานวน ๑ ฉบับ
(๔) ใบรับรองแพทย์ ซึ่งออกให้ไม่เกิน ๑ เดือน และแสดงว่าไม่เป็นโรคที่ต้องห้าม ตามกฎ ก.พ. ได้แก่
(๔.๑) วัณโรคในระยะแพร่กระจายเชื้อ (๔.๒) โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่น่ารังเกียจแก่สังคม (๔.๓) โรคติดยาเสพติดให้โทษ (๔.๔) โรคพิษสุราเรื้อรัง
(๔.๕) โรคติดต่อร้ายแรงหรือโรคเรื้อรังที่ปรากฏอาการเด่นชัดหรือรุนแรงและเป็น อุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่ตามที่ ก.พ. กําหนด
(๕) บัตรประจําตัวประชาชน หรือบัตรประจําตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบัตรอื่นที่ทาง ราชการออกให้ที่ยังไม่หมดอายุ ซึ่งมีรูปถ่ายและมีเลขประจําตัวประชาชน ๑๓ หลัก ระบุชัดเจน ฉบับจริงพร้อม สําเนา จํานวน ๑ ฉบับ
(5) สําเนาทะเบียนบ้าน จํานวน ๑ ฉบับ
(๗) ผู้สมัครหากเป็นเพศชาย ต้องผ่านการรับราชการทหาร หรือพ้นการเกณฑ์ทหารแล้ว หรือมีหลักฐานแสดงว่าไม่ต้องรับราชการทหาร
(๘) สําเนาหลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบสําคัญการสมรส ใบเปลี่ยนชื่อ – สกุล (ในกรณี ชื่อ – นามสกุล ในหลักฐานการสมัครไม่ตรงกัน) เป็นต้น จํานวน ๑ ฉบับ
สําเนาเอกสารทุกฉบับให้ผู้สมัครเขียนคํารับรองว่า “สําเนาถูกต้อง” ลงลายมือชื่อ วันที่ กํากับไว้มุมบนด้านขวาทุกหน้าของสําเนาเอกสาร